ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติประสบความสำเร็จในการทำแผนที่จีโนม หรือข้อมูลพันธุกรรมทั้งหมดของข้าวสาลี ซึ่งจะช่วยเปิดทางไปสู่การดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อพัฒนาข้าวสาลีพันธุ์ใหม่ ๆ ที่จะให้ผลผลิตมากขึ้น มีความทนทานต่อโรคต่าง ๆ และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในอนาคต
ทีมนักวิจัยใช้เวลาถึง 13 ปี ในการจัดลำดับชุดพันธุกรรมข้าวสาลีพันธุ์ Triticum aestivum ที่เพาะปลูกกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจีโนมข้าวสาลีมียีนทั้งหมด 107,891 ตัว โดยจีโนมที่มีความซับซ้อนมีอยู่ 16,000 ล้านคู่เบสของโครงสร้างของสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ (DNA) ซึ่งใหญ่กว่าจีโนมของมนุษย์กว่า 5 เท่า
การทำแผนที่จีโนมนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลต่อการเร่งพัฒนาพันธุ์ข้าวสาลีใหม่ ๆ เพราะจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถคัดเลือกพันธุ์ ควบคุมการเติบโต ดัดแปลงยีนให้ทนต่อความร้อน รวมทั้งเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของสารอาหารในข้าวสาลี
ข้าวสาลีถือเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นแหล่งพลังงานราว 20% ของพลังงานที่มนุษย์บริโภคทั้งหมด องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ชี้ว่ายอดการผลิตข้าวสาลีจะต้องเพิ่มขึ้นอีก 60% ภายในปี 2050 เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของประชากรโลก
วิเคราะห์ : การพัฒนาแบบใหม่นี้จะช่วยให้สามารถผลิตข้าวสารลีได้ทันตามความต้องการของโลก ไม่ขาดตลาด